Seminar no. 1359
12 November 2025 Time: 12:30 – 13:30 hrs.
Speaker: นางสาวอาตีซะห์ วาแมง และนายสุทธิกรณ์ ณ บางช้าง (นักศึกษา สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล)
“การศึกษานโยบายการป้องกันและควบคุมการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในเด็กและเยาวชนไทย” ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเด็กและเยาวชนไทยได้กลายเป็นหนึ่งในความท้าทายสำคัญด้านสาธารณสุข โดยมีสัญญาณเตือนเชิงระบาดวิทยาที่ชัดเจน จากข้อมูล NHES และ GYTS พบว่าอัตราการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในเยาวชนอายุ 13–15 ปี เพิ่มจาก 3.3% ในปีพ.ศ. 2558 เป็น 17.6% ในปีพ.ศ. 2564 ภายในระยะเวลาเพียง 7 ปี ปัญหานี้สะท้อนถึงช่องว่างเชิงนโยบายและการบังคับใช้กฎหมายที่ยังไม่ทันต่อรูปแบบการเข้าถึงที่ซับซ้อน โดยเฉพาะในมิติออนไลน์และสื่อสังคม การศึกษาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) วิเคราะห์ประสิทธิภาพและข้อจำกัดของนโยบายและกฎหมายที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน (2) ศึกษาช่องว่างในการบังคับใช้ โดยเฉพาะด้านการควบคุมการขายและการโฆษณาออนไลน์ และ (3) สังเคราะห์แนวทางเชิงนโยบายที่มุ่งป้องกันการเข้าถึงและลดการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในเด็กและเยาวชน การศึกษาในครั้งนี้ใช้วิธีวิเคราะห์นโยบายและมาตรการที่เกี่ยวข้องของประเทศไทยในช่วงปีพ.ศ. 2557–2568 ควบคู่กับการเปรียบเทียบแนวปฏิบัติของต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย เพื่อดึงบทเรียนที่เหมาะสมกับบริบทไทย ตลอดจนการรวบรวมข้อมูลเชิงสถิติและหลักฐานเชิงประจักษ์เกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในเยาวชน ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่า แม้ประเทศไทยจะมีกฎหมายห้ามนำเข้า–จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า แต่ยังมีช่องว่างสำคัญในการบังคับใช้ เช่น การเข้าถึงผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ไร้ข้อจำกัด การตลาดเชิงรุกในหมู่วัยรุ่น และการขาดกลไกเฝ้าระวังในสถานศึกษาและชุมชน เมื่อเทียบกับประเทศที่ประสบความสำเร็จในการควบคุม พบว่าการบูรณาการนโยบายควบคุมยาสูบเข้ากับระบบการศึกษา การสื่อสารสาธารณะ และการบังคับใช้ที่เข้มแข็ง เป็นปัจจัยสำคัญในการลดอัตราการใช้ในกลุ่มเยาวชน ข้อเสนอเชิงนโยบายจากการศึกษานี้คือ การเสริมประสิทธิภาพกฎหมายและมาตรการควบคุมให้ครอบคลุมมิติออนไลน์ การสร้างระบบเฝ้าระวังและป้องกันเชิงรุกในสถานศึกษา และการสร้างพันธมิตรข้ามภาคส่วนเพื่อบรรลุเป้าหมาย SDG 3, 4 และ 17 ซึ่งจะช่วยลดภาระโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) และสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคมให้กับเด็กและเยาวชนไทยในระยะยาว
“นโยบายการจัดการภาวะทุพโภชนาการในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย: บทเรียนเชิงพื้นที่และการพัฒนาอย่างยั่งยืน” ภาวะทุพโภชนาการในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ยังคงเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ซึ่งมีอัตราความชุกของเด็กเตี้ยและผอม สูงกว่าค่าเฉลี่ยระดับประเทศถึง 2-3 เท่า โดยในการศึกษาครั้งนี้ จึงเป็นการสังเคราะห์ข้อมูลนโยบายด้านการจัดการภาวะทุพโภชนาการของภาครัฐ อาทิ แผนปฏิบัติการโภชนาการแห่งชาติ พ.ศ. 2562–2570 พระราชบัญญัติควบคุมการตลาดอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็ก พ.ศ. 2560 แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2566–2570 และโครงการระดับพื้นที่ เช่น พลัง 3 สร้าง และ อาหารกลางวันเด็กเล็ก รวมถึงการวิเคราะห์ช่องว่างของการดำเนินงานในระดับพื้นที่ และการสะท้อนประสบการณ์ภาคสนามจากการทำงานในพื้นที่ชายแดนใต้ แม้นนโยบายด้านโภชนาการของประเทศไทยจะมีกรอบเป้าหมายที่ชัดเจนและสอดคล้องกับเป้าหมายโภชนาการระดับโลก (Global Nutrition Targets 2025) แต่การดำเนินนโยบายในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ยังเผชิญข้อจำกัดหลายประการ ได้แก่ การเข้าถึงอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการต่ำ ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ สภาพสังคมและวัฒนธรรมเฉพาะถิ่น ความยากจน และความไม่มั่นคงในพื้นที่ ซึ่งส่งผลให้การแก้ไขปัญหาในระดับชุมชนยังขาดความต่อเนื่องและประสิทธิภาพ จึงควรพัฒนา “นโยบายโภชนาการเชิงพื้นที่” ที่ผสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ท้องถิ่น และชุมชน โดยคำนึงถึงบริบททางสังคมและวัฒนธรรมของพื้นที่ เพื่อยกระดับความมั่นคงทางอาหารและสุขภาวะของเด็กให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)
Join Zoom Meeting https://zoom.us/j/95265807246?pwd=gE2tZD71e1ahW7kab7j4zO8SBSYbgJ.1
Meeting ID: 952 6580 7246
Passcode: 378721